พบโซนแห่งการเห็นแก่ประโยชน์ในสมอง
พบโซนแห่งการเห็นแก่ประโยชน์ในสมอง

วีดีโอ: พบโซนแห่งการเห็นแก่ประโยชน์ในสมอง

วีดีโอ: พบโซนแห่งการเห็นแก่ประโยชน์ในสมอง
วีดีโอ: คลิปหลุดเอี่ยวหวยออนไลน์ ปิดเกม แรมโบ้ จุรีพร ? เสรีพิศุทธ์ อัปเดตคลิปแจกกล้วย 5 ล้าน 2024, เมษายน
Anonim
Image
Image

นักวิทยาศาสตร์อ้างว่าได้พบส่วนหนึ่งของสมองที่กำหนดว่าคนๆ หนึ่งจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือเห็นแก่ผู้อื่น ตามรายงานของ BBC Russian.com ผลการศึกษาของ Duke University Medical Center ในสหรัฐอเมริกาได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Neuroscience

ผู้เห็นแก่ผู้อื่นคือคนที่ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่เห็นแก่ตนเองอย่างชัดเจน พฤติกรรมนี้มักจะอธิบายได้ยากในเชิงวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการเห็นแก่ผู้อื่นอาจเกี่ยวข้องกับพื้นที่ของสมองที่เรียกว่าร่องเหนือที่เหนือกว่า

พัฒนาการของสมองส่วนนี้ในเด็กกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ บางทีเร็ว ๆ นี้อาจเป็นไปได้ที่จะกำหนดว่าคน ๆ หนึ่งจะเติบโตขึ้นมาด้วยความเห็นแก่ตัวหรือเห็นแก่ผู้อื่นในวัยเด็กโดยลักษณะเฉพาะของร่องที่เหนือกว่าชั่วคราวส่วนหลังของเขา

ระหว่างการทดลอง อาสาสมัคร 45 คน ผู้เข้าร่วมการศึกษา ถูกขอให้ระบุว่าพวกเขาให้ความช่วยเหลือประเภทใดก็ตาม เช่น ทำงานการกุศลบ่อยเพียงใด และถูกขอให้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อประเมินความชอบใจในการเห็นแก่ผู้อื่น

"การเข้าใจถึงหน้าที่ของสมองส่วนนี้อาจไม่จำเป็นต้องเป็นตัวกำหนดว่าอะไรเป็นแรงผลักดันให้คนอย่างแม่ชีเทเรซา"

ดร. สก็อตต์ ฮูเทล นักวิจัยกล่าวว่า "ในขณะที่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่ของสมองส่วนนี้อาจไม่จำเป็นต้องกำหนดสิ่งที่ขับเคลื่อนผู้คนเช่นแม่ชีเทเรซา แต่ก็สามารถให้เบาะแสเกี่ยวกับหน้าที่ทางสังคมที่สำคัญ เช่น การเห็นแก่ประโยชน์ผู้อื่น" นักวิจัยกล่าว

ดร.จอร์จ ฟิลด์แมน สมาชิกของ British Psychological Society และวิทยากรด้านจิตวิทยาที่ University College ใน Chiltern, Buckinghamshire ไม่ได้แยกแยะการมีอยู่ของบริเวณสมองที่เกี่ยวข้องกับการเห็นแก่ประโยชน์ผู้อื่น ในเวลาเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษตั้งข้อสังเกตว่าการเห็นแก่ผู้อื่นเป็นปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างหายากและมักเข้าใจยาก

“การเห็นแก่ผู้อื่นมักเป็นทั้งสองฝ่าย: คุณทำบางสิ่งเพื่อใครบางคน และตามกฎแล้ว คุณจะต้องคาดหวังสิ่งตอบแทนเช่นเดียวกัน” ดร.ฟิลด์แมนกล่าว

แพทย์แนะนำให้ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ที่แสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวและความเห็นแก่ตัวอย่างสุดโต่ง เพื่อเปรียบเทียบว่าสมองของพวกเขามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่